เกรซคลินิก เวชกรรมขอนแก่น โบท็อก คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึงได้คะ
ถ้าอยากลดริ้วรอยจะฉีดโบท็อกซ์ดีไหม ? ลดกราม ปรับหน้าเรียว ฉีดโบท็อกหรือผ่าตัดดี ? สำหรับริ้วรอยการฉีดโบท็อก Botox จะช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ลดรอยเหี่ยวย่นหน้าผาก หางตา ตีนกา หลัก ๆ คือช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนอกจากนี้การฉีดโบยังช่วยในการปรับรูปหน้า ลดกรามโดยให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง กระชับกรอบหน้า ช่วยให้หน้าเรียววีเชฟ และยังสามารถนำโบท็อกมาฉีดลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อน่องได้ด้วย
โบท็อกเป็นหัตถการที่เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบไม่ให้หน้าเปลี่ยนไปมาก ยังเหมือนเดิมแต่สวยขึ้น กระชับขึ้น สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดโบท็อกหรือไม่ ทำแล้วจะคุ้มค่าไหม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ ฉีดปรับรูปหน้าหมอได้อธิบายข้อดีของทั้งสองอย่างให้พิจารณาคะ
โบท็อกเป็นโปรตีนน้ำใส ๆ เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ
เป็นส่วนที่จะออกฤทธิ์และถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นคะ การทำงานของโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ
ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกายคะ
หลังจากนั้นโบท็อกก็จะค่อย ๆ ออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อจนเห็นผลชัดเจน และสลายไปเอง 100% ไม่มีสารตกค้าง ตามระยะเวลาของโบท็อกยี่ห้อนั้น ๆ คะ
ปัญหาเรื่องฉีดโบท็อก อันตรายไหม? ส่วนใหญ่ที่คนไข้กังวลมักเกิดจากการเห็นผลลัพธ์ไม่ดีจากคนอื่นที่เคยฉีดมาหรือตามที่ออกข่าว ไม่ว่าจะเป็นหน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ ไม่เป็นธรรมชาติแต่ในความเป็นจริงไม่ใช่หมอทุกคนที่ฉีดออกมาแล้วเป็นแบบนั้นครับ ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์แต่ละคน ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยคะ
และเพื่อให้การฉีดได้ผลดี เป็นธรรมชาติและปลอดภัยมากที่สุด นอกจากการเลือกคลินิกแล้ว คนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้ไว้บ้าง เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบโบท็อกที่นำมาฉีดได้ในเบื้องต้นคะ
โบท็อกสามารถนำมาฉีดในกล้ามเนื้อได้หลายจุด แต่บริเวณที่คนนิยมฉีด botox คือใบหน้าครับ ทั้งฉีดเพื่อลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้า สำหรับคนที่สงสัยว่าโบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง หมอรวบรวมจุดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมไว้ดังนี้คะ
การฉีดโบท็อกกราม จะช่วยเรื่องลดกราม กระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว โดยโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง และมีขนาดเล็กลง ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน แนะนำให้ทำโบลดกรามควบคู่กับโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะได้ผลลัพธ์ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูปที่สุดคะ ฉีดโบท็อก ช่วยให้หน้าเรียวได้จริงคะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ด้วย เพราะโบท็อกจะใช้ได้ผลกับกล้ามเนื้อเท่านั้น หมอจะต้องประเมินว่าคนไข้ที่อยากหน้าเรียว
มีปัญหาจากจุดไหน จากกระดูก กล้ามเนื้อหรือว่าไขมัน เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้คะ
หากต้องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่น เช่น รอยย่นบริเวณ โบท็อกตีนกา โบท็อกหางตา โบท็อกหน้าผาก โบท็อกหว่าง การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยเป็นหัตถการที่แก้ไขได้ตรงจุดคะ โดยสามารถช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าได้อย่างเห็นผล หลังฉีดโบท็อกไปแล้วริ้วรอยจะเริ่มลดลง เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียนขึ้น ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมเราต้องมีเหงื่อ เหงื่อเกิดจากอะไร เหงื่อเกิดจากกระบวนการทำงานของร่างกาย ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสารอาหารที่เราทานไปให้เป็นพลังงานคะ ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนและร่างกายก็จะมีกลไกในการระบายความร้อนนั้น ให้ออกมาในรูปแบบของ “เหงื่อ” นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย
โบท็อกรักแร้ หรือโบท็อกจักแร้ คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด A (Botulinum toxin type A) ข้างละ 50-100 ยูนิต เข้าไปบริเวณรักแร้ 20-30 จุด เพื่อยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80% คะ
หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ในการที่เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง ในบางคนที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนก็อาจจะทำให้การผลิตเหงื่อออกมาเร็วกว่าปกติได้คะ โดยทั่วไปหากฉีดโบท็อกลดกราม จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึงจะหมดฤทธิ์ ส่วนโบท็อกรักแร้ จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ ถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องสามารถมาฉีดรักแร้ซ้ำได้
โบท็อกปีกจมูก คือ การฉีดโบท็อกเข้าไปตรงบริเวณปีกจมูกทั้งสองข้าง ในบริเวณนี้จะมีกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายปีกจมูกให้กว้างขึ้นหรือบานขึ้น ได้แก่ ไดเลเตอร์ นาริส (Dilator naris) หรือ อะลาร์ นาซาลิส (Alar nasalis) ที่ขณะหดตัวจะทำให้จมูกบานออก ทำให้รูจมูกดูใหญ่ขึ้น อาจทำให้เสียความมั่นใจเวลาพูดหรือแสดงสีหน้าได้ การฉีดโบท็อกลดปีกจมูก สามารถใช้ได้ผลกับการที่ปีกจมูกบานจากกล้ามเนื้อหรือชั้นผิว หากหมอวินิจฉัยแล้วว่าปีกจมูกบานมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อ สามารถแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกคะ
ฉีดโบท็อกไปยังกล้ามเนื้อ Dilator naris ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่ให้จมูกหุบบาน และกล้ามเนื้อ Transverse nasalis หรือ Levator labii superioris nasalis (LLSAN) ที่ให้จมูกบานมากขึ้น ปีกจมูกยกขึ้นเวลายิ้ม พบได้บ่อย ๆ คะ เมื่อฉีดโบท็อกปีกจมูกเพื่อคลายกล้ามเนื้อ จะช่วยให้จมูกเล็กบางลงมา 3-5 มิลลิเมตร โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะการผ่าตัดไม่สามารถแก้ปัญหาจมูกบานจากสาเหตุของกล้ามเนื้อได้คะ
การฉีดโบท็อกจมูก นอกจากฉีดลดปีกจมูก ยังสามารถฉีดโบท็อกรัดแกนจมูก เพื่อให้สันจมูกคมชัดขึ้น รวมถึงลดริ้วรอยบริเวณสันจมูกส่วนบน เวลายิ้ม จะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์คะ การฉีดโบท็อกรัดแกนจมูก จะฉีดในตำแหน่งที่ต่างกันคะ โดยการฉีดโบท็อกรัดแกนจมูก จะฉีดที่ด้านข้างจมูก เนื่องจากเวลายิ้มสันจมูกเราจะแบนลง ด้านข้างจมูกจะดูกว้างขึ้น เกิดจากกล้ามเนื้อที่อยู่บนสันจมูกหดตัว เมื่อกล้ามเนื้อตัวนี้หดตัว จะกดสันจมูกและตรงปลายของกระดูกอ่อนให้แบนราบลง
ทำให้จมูกดูไม่โด่งนั่นเองคะ ดังนั้นจึงมีการฉีดโบท็อกเข้าไปด้านข้างสันจมูกก็เพื่อให้กล้ามเนื้อมัดนี้คลายตัว สันจมูกก็จะดูชัดขึ้นกว่าเดิม
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า คือ การฉีดโบท็อกเพื่อคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ โดยฉีดบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง จะได้ดึงแก้มให้น้อยลงและลิฟหน้าให้ดูชัด คมขึ้น
โบท็อกลิฟกรอบหน้า เห็นผลประมาณ 3-4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ ผิวจะตึงกระชับ กรอบหน้าคมชัดมากขึ้น ถ้าฉีดลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermolift ผลลัพธ์จะอยู่ได้ 1-2 เดือน ส่วนการฉีดลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift จะอยู่ได้ 3-4 เดือนคะ
สาเหตุของขนาดน่องที่ใหญ่เกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจากการใส่ส้นสูงตลอด บางอาชีพที่ต้องเดินหรือยืนนานๆ สำหรับหลักการทำงานของการฉีดโบท็อกลดน่อง คือ ฉีดโบท็อกไปยังกล้ามเนื้อ (Gastrocnemius) บริเวณน่อง เพื่อให้ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อน่องที่ใหญ่มีขนาดเล็กลง คล้ายกับลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้หน้าเรียวคะการฉีดโบท็อกน่องหลังฉีดต้องใช้ระยะประมาณ 3 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผลเพราะกล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่คะ ผลการรักษาอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
แล้วแต่บุคคลคะ ขึ้นอยู่กับการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณน่องด้วย หากยังต้องเดินบ่อยๆ หรือใส่ส้นสูงตลอดเวลาขนาดของกล้ามเนื้อน่องจึงมีโอกาสกลับมาใหญ่ได้เร็ว สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เพื่อคงขนาดน่องให้เรียวเล็ก
การมีใบหน้าที่เรียบเนียน ผิวละเอียดบ่งบอกถึงความอ่อนเยาว์คะ ปัญหารูขุมขนกว้างทำให้หน้าดูมีอายุ ผิวไม่สดใส
ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน หลังฉีดประมาณ 2-3 วัน จะเริ่มรู้สึกผิวกระชับ หน้ามันลดลง รูขุมขนดูตื้นขึ้น และได้ผลเต็มที่ในเวลา 1 สัปดาห์ และผลจะยังคงอยู่
โหนกแก้ม เป็นส่วนประกอบหนึ่งของใบหน้าที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนคะ สำหรับใครที่มีโหนกแก้มใหญ่จะส่งผลให้ใบหน้าไม่สมส่วน ดูดุ ดูแข็ง ยิ้มแล้วไม่ค่อยมั่นใจ ยิ่งแก้มตอบลดลงด้วย ยิ่งทำให้หน้าโทรม การลดโหนกแก้มลงจะช่วยให้ใบหน้าคุณดูมีมิติ หน้าเรียวขึ้น ดูอ่อนกว่าวัยได้การ ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม คือการฉีด Botox เข้าไปลดขนาดกล้ามเนื้อ (zygomaticus) ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง โหนกแก้มจึงมีขนาดเล็กลงได้ แต่โหนกแก้มก็จะขึ้นเวลายิ้มคะ
การวิเคราะห์แล้วว่าโหนกแก้มที่ใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อ สามารถแก้ไขได้ด้วยโบท็อก ลดโหนกแก้ม จะเริ่มเห็ผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ กล้ามเนื้อโหนกแก้มจะค่อยๆ นิ่มลง เล็กลง ผลลัพธ์จะอยู่ได้แค่ชั่วคราว และต้องกลับไปฉีดซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน
การฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน ได้รับความสนใจโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีต้นแขนใหญ่ ดูคล้ายแขนผู้ชาย บางคนไม่กล้าใส่เสื้อที่โชว์แขนเพราะขาดความมั่นใจ การฉีดโบท็อกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้คะ การฉีดโบท็อกต้นแขนจะใช้ 200 ยู คะ 1 ครั้ง ลดลงได้ 10-20% เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 2-3 เดือน คนไข้สามารถฉีดเพิ่มได้เพื่อให้กล้ามเนื้อยุบลงมากขึ้น แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ถาวรนะคะ อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ หากมีการใช้กล้ามเนื้อแขนมากๆ ก็จะกลับมาแขนใหญ่ได้อีก
โบท็อกซ์มีหลายยี่ห้อจากหลายประเทศครับ ยี่ห้อของโบท็อกหลัก ๆ ได้แก่ โบท็อกเกาหลี Natota โบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. อเมริกา (US FDA) เมื่อปี 2018 นอกจากนี้ยังได้รับรองมาตรฐานจากทั้ง อย.เกาหลี (Korea FDA) และอย.ไทย (TH FDA) อีกด้วย ปัจจุบันบริษัทที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย คือ บริษัทมัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด โดยทางบริษัทผู้ผลิตระบุว่า Botox Nabota มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% (GOLDEN TOXIN 98.7%)
ช่วยให้หลังฉีดโบท็อกไปแล้ว สามารถลดอัตราการดื้อยา (การดื้อยาในที่นี้หมายถึงการมาฉีดโบท็อกซ้ำ ๆ แล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อยลงไปเรื่อย ๆ) สามารถกลับมาฉีดซ้ำใหม่ได้ และออกฤทธิ์ค่อนข้างไว จึงได้รับความนิยมทั้งในประเทศเกาหลี โซนยุโรป อเมริกา รวมถึงประเทศไทย
โบท็อก Allergan คือ หนึ่งในยี่ห้อของสารโบทูลินิม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin a) ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศอเมริกา โบท็อกซ์ Allergan เป็นโบท็อก Original ครับ เพราะเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มในการลดริ้วรอยครับ และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA (อย.) ในการลดริ้วรอย มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย(since 1989) รับรองถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์หลังฉีด จึงเป็นยอมรับระดับโลก และถูกนำมาในคลินิกชั้นนำในไทยอย่างกว้างขวาง
ข้อดี ของโบท็อกซ์ Allergan
ข้อเสีย ของโบท็อกซ์ Allergan
Dysport Botox (ดิสพอร์ต) หรือที่หลายคนเรียกกันว่าโบอังกฤษ เป็นหนึ่งในยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้สารสกัดโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ถูกนำมาใช้ปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย หรือช่วยให้ผิวดูเต่งตึงได้รูป โบชนิดนี้มีโมเลกุลขนาดเล็กทำให้มันสามารถกระจายตัวได้ดี เมื่อฉีดเข้าไปแล้วไม่กระจุกอยู่ในที่แคบ เหมาะสำหรับนำมายกกระชับผิว Dysport ผลิตขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED ถูกนำเข้าและจัดจำหน่ายเข้ามาในประเทศไทยภายใต้บริษัท Galderma Thailand
สำหรับกระบวนการออกฤทธิ์ของ Dysport จะใช้ส่วนของโมเลกุลทั้งหมด 2 ส่วนหลักก็คือ ส่วนHeavy chain ซึ่งจะทำหน้าที่ในการจับและนำโมเลกุลของโบท็อกซ์เข้าสู่เซลล์ประสาท ส่วนต่อมาคือ Light chain มีหน้าที่ในการจับ SNARE proteins เพื่อยับยั้งการหลั่ง Acetylcholine ที่บริเวณปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวลงได้ ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อมีการทำงานน้อยลงก่อให้เกิดการคลายตัวมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยในบริเวณนั้น ๆ ก็ดูลดเลือนลง และเมื่อผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่งตัวสารของโบท็อกซ์ก็จะค่อย ๆ
สลายตัวหายไปได้เองตามธรรมชาติของมันโดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันดิสพอร์ตโบท็อกซ์ที่ผ่านอย.ในประเทศไทยก็มีทั้งหมด 2 แบบได้แก่
โบท็อก (Botox) เป็นชื่อที่คนไทยและคนทั่วโลกเรียกกันอย่างติดปาก และเป็นอันเข้าใจตรงกันว่าเป็นสาร Botulinum toxin ที่ใช้ลดขนาดกรามและริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว Botox เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin ชนิดหนึ่งที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Allergan (สหรัฐอเมริกา) โบท็อกเยอรมัน Xeomin เป็นโบท็อกโมเลกุลเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology™ มาใช้ในกระบวนการการผลิต เพื่อกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็น (accessory protein)
ออกจากโมเลกุลของท็อกซิน ทำให้โมเลกุลของโบท็อกมีขนาดเล็กลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี และด้วยโบท็อกเยอรมัน Xeomin ได้มีการกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้โบท็อกมีความบริสุทธิ์สูง โอกาสการดื้อยาต่ำ และมีงานวิจัยยืนยันว่า ถ้าฉีด Xeomin ในเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อก จะเห็นผลมากกว่าฉีดยี่ห้ออื่น ๆ หากเว้นระยะการฉีดมาแล้ว 2-3 ปี
ผลการวิจัยการทดลองฉีดโบท็อก Xeomin ในกลุ่มทดลอง พบว่า 99.4% ไม่พบการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต้านโบท็อก (NAbs) และ 0.6% พบว่าร่างกายมีการสร้างสารต้านโบท็อก แต่โบท็อกยังสามารถออกฤทธิ์ได้ดี จึงสรุปได้ว่า ในการทดลองครั้งนี้ไม่มีตัวอย่างใดที่มีการแสดงออกว่าดื้อโบท็อก Xeomin
สำหรับใครที่กำลังจะฉีดโบท็อกควรศึกษาข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลังฉีดให้ดีก่อนครับ เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ของการฉีดออกมาดีและคุ้มค่าที่สุด
โบท็อกเกาหลี ราคา Natota 100 u 4,990.- ราคา Natota 200 u 8,990.-
โบท็อกอเมริกา ราคา Allergan 15,990.-
โบท็อกอังกฤษ ราคา Dysport 15,990.-
โบท็อกเยอรมัน ราคา Xeomin 15,990.-